Tohoku University http://www.tohoku.ac.jp/en/
ข้อมูลทั่วไป
Tohoku University ก่อตั้งขึ้นในปี 1907 เป็นมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่น และยังเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอีกด้วย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกโดย QS Top Universities ยกให้มหาวิทยาลัย Tohoku University เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 79 ของโลก และอันดับที่ 23 ของเอเชีย ได้ชื่อว่ามีความเสรีนิยม (liberal) สูงกว่าที่อื่นมาก สังเกตได้จากที่มหาวิทยาลัยนี้เป็นสถานศึกษาแรกที่เปิดความคิดหัวก้าวหน้า เช่น การรับผู้หญิงเข้ามาเรียนด้วยก่อนที่อื่น มหาวิทยาลัยมีคุณภาพมุ่งเน้นเรื่องการทำวิจัยอย่างสูง ตามสโลแกนแรกของมหาวิทยาลัยที่ว่า “Research First” มหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่ในเมืองเซ็นไดซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบกว่าเมืองใหญ่อื่น ๆ แต่มหาวิทยาลัย Tohoku ของเมืองนี้ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน จึงเหมาะกับคนที่ตั้งใจมาศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นจริง ๆ ที่สำคัญคือสะดวกปลอดภัยและค่าครองชีพถูกกว่าเมืองอื่น ๆ ของญี่ปุ่นพอสมควร
ภาพที่ 1. แสดงค่าครองชีพของเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น
รายวิชาที่เปิดสอน
คณะที่สอนในหลักสูตร Future Global Leadership Undergraduate ประกอบด้วยคณะเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และคณะวิศวกรรม และแต่ละคณะได้สร้างหลักสูตรเฉพาะตัวของตนเองขึ้นมา นั่นก็คือ Advanced Molecular Chemistry จากคณะวิทยาศาสตร์ International Mechanical and Aerospace Engineering จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ Applied Marine Biology จากคณะการเกษตร
และทั้งสามหลักสูตรนี้จะต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานนอกเหนือจากรายวิชาในคณะตนเองด้วย เช่น วิชาสังคมศาสตร์ วิชาเศรษฐศาสตร์และการสร้างธุรกิจ และวิชาประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ นักศึกษาที่ชอบทำโปรเจกต์สามารถหาอาจารย์เป็นที่ปรึกษาทำโปรเจกต์ระหว่างเรียน ซึ่งอาจารย์ในหลักสูตรนี้จะมีทั้งอาจารย์ญี่ปุ่นและอาจารย์ต่างชาติ และห้องปฏิบัติการมากมายก็ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสังคมญี่ปุ่นทั่วไป
ตัวอย่างรายชื่ออาจารย์หรือห้องปฏิบัติการในหลักสูตร นับว่านักเรียนคนใดที่อยากฝึกฝนจากการทำงานจะได้ประโยชน์มาก
จะเห็นได้ว่าหลักสูตรนี้เน้นการเรียนการสอนด้าน STEM และยังมีวิชา Non-STEM อยู่พอสมควร ที่สำคัญคือการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษครับ ดังนั้นน้อง ๆ ที่ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นก็สามารถสมัครได้ แล้วค่อยไปเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นในหลักสูตรได้เลย
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปส่องว่าหลักสูตรนี้มีอะไรเปิดสอนบ้าง เข้าไปได้ที่นี่เลยครับ https://www.insc.tohoku.ac.jp/english/wp-content/uploads/2020/05/FGL-IMAC-U-Syllabus-2020.pdf
ทุนการศึกษา
Tohoku University ให้การสนับสนุนชีวิตการศึกษาของนักเรียนต่างชาติในหลักสูตร FGL โดยให้ทุนการศึกษาแก่ผู้ที่มีความสามารถด้านการศึกษาที่ยอดเยี่ยม นักเรียนสูงสุด 8 คนในแต่ละรุ่น (รวมทั้งสามคณะ) จะได้รับทุนการศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่น (MEXT) ซึ่งให้ทั้งค่าเรียนและค่ากินอยู่เดือนละ 119,000 เยนตามที่อยู่ที่ญี่ปุ่น (น้อยกว่าบางเมืองอยู่พันเยน แต่อยู่เมืองนี้เทียบค่าใช้จ่ายแล้วเงินอาจพอกว่าแน่นอนครับ) แต่นักเรียนคนอื่น ๆ จะได้รับทุนอธิการบดี (ทุนค่าเรียน) และจะมีสิทธิ์ที่จะได้ทุนการศึกษาเกียรตินิยม MEXT สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมตรวจสอบทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัย Tohoku ได้ที่นี่เลยครับ http://www.tohoku.ac.jp/en/admissions/financial_aid.html
การสมัคร
ตามตารางด้านล่างนี้เลยครับ *กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงตามประกาศมหาวิทยาลัย
หมดช่วงสาระ ได้เวลาเล่าประสบการณ์แล้ว
สวัสดีครับน้อง ๆ และมิตรสหายทุกท่านครับ ผมชื่อริวครับ หรือรวิน อัสสะบำรุงรัตน์ เป็นนักเรียนที่เพิ่ง จบการศึกษาจากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ครับ (เขียนเมื่อปี 2020) และแน่นอนครับทุกท่าน ผมได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่นจากโปรแกรมของมหาวิทยาลัยนี้ครับ จากที่ผมจะเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรคณะวิศวกรรมระดับปริญญาตรี ผมยินดีที่จะให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือทุกท่านที่สนใจเลยครับ กลับเข้าเรื่องต่อ จะเห็นว่ามหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ชื่ออาจไม่คุ้นหูกับคนหลาย ๆ คนนักเพราะไม่ใช่เมืองที่เรารู้จักจากการท่องเที่ยวมาก แต่อยากให้ลองศึกษาดูครับ แล้วจะเห็นว่ามหาวิทยาลัยนี้มี“ดี”หลายอย่างมากเลยทีเดียว ผมก็เพิ่งเคยรู้จักมหาวิทยาลัยนี้จริง ๆ จัง ๆ ตอนที่ผมอยู่มัธยมปลายเอง แต่ครับแต่ ผมก็ได้รู้จักมหาวิทยาลัยนี้มากขึ้นจากที่ผมเคยได้รับทุนไปศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ระหว่างที่ผมเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผ่านโครงการ Sakura Science Exchange กับอาจารย์คนไทย 1 ท่านและเพื่อนคนไทยรวม 10 คน นั่นก็ทำให้ผมเริ่มเห็นความเจ๋งและความแปลกใหม่ของมหาวิทยาลัยนี้มากขึ้น เช่น หลักสูตรที่ตรงสาขามากกว่า และพบว่ามหาวิทยาลัยนี้มีจุดเด่นจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นหลายแห่งเลย เช่น มี Innovation Plaza เป็นสถานที่ที่ให้เด็กคณะวิศวกรรมเข้าไปประดิษฐ์ของต่าง ๆ ได้เลย พร้อมสนับสนุน หรือจะเป็นหอพักของมหาวิทยาลัยที่เพิ่งสร้างใหม่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก หลายเหตุผลประกอบกัน ผมจึงตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ครับ
การสมัคร
การสมัครจะแบ่งออกเป็นสองรอบครับ รอบแรกจะเป็นรอบตรวจเอกสารและพิจารณาคะแนน standardized test และ essays ข้อมูลที่ต้องเตรียมไว้เนิ่น ๆ มีดังนี้
1. ใบจบการศึกษาจากโรงเรียนที่จบมา และผลการเรียน (Transcript) แต่ถ้ายังไม่จบ ม.6 ก็ค่อยส่งทีหลังก็ได้
2. คะแนนสอบ Standardized Tests (วิชาที่ใช้ส่งได้จะเปลี่ยนไปตามคณะ ตรวจสอบที่เว็บไซต์ในแต่ละปีเลยครับ)
3. คะแนนสอบภาษาอังกฤษ (TOEFL iBT 79 ขึ้นไป หรือ IELTS Aca 6 ขึ้นไป)
4. ใบยืนยันสัญชาติ (อาจเป็นบัตรพลเมืองหรือหน้าหนังสือเดินทาง)
5. รูปถ่ายหน้าตรง
6. Essay หนึ่งเรื่อง (หัวข้อคือ Statement of Reasons for Applying)
ที่สำคัญคือเอกสารทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
*เอกสารทั้งหมดให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยอีกครั้ง
ผู้สมัครก็ต้องอัปโหลดเอกสารที่ระบบรับสมัครออนไลน์ และอาจจะมีเอกสารบางชิ้นที่ต้องส่งไปรษณีย์ไปให้มหาวิทยาลัยด้วย ดังนั้นต้องศึกษา Application Instructions ของแต่ละปีให้ดีนะครับ
Comments