top of page
Writer's pictureNeti Natekuekool

School of integrated Innovation, Chulalongkorn University (ScII)

Updated: Aug 6, 2020

->ข้อมูลทั่วไป

Chulalongkorn University หรือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย และถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 1 ของประเทศไทยมานานหลายปี (อ้างอิงจาก QS World University Rankings) นอกจากนี้ยังมี connection ที่หลากหลายทั้งภายในและต่างประเทศที่รองรับนักศึกษาสำหรับการฝึกงานและหลังจากจบการศึกษา ตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ จึงทำให้สะดวกต่อการเดินทาง และไม่ต้องสงสัยเลยว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่เด็กไทยทั่วประเทศต้องการที่จะเข้าศึกษาต่อมากที่สุดอีกด้วย


School of integrated Innovation (ScII) เป็นสถาบันแห่งใหม่ล่าสุดภายใต้สังกัดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ทำการเปิดการเรียนการสอนเป็นปีแรกในปีการศึกษา 2562 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะพัฒนาและเตรียมความพร้อมนักศึกษาสู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคตที่ตรงกับความต้องการของสังคม


->รายวิชาที่เปิดสอน

สถาบันใหม่ภายใต้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งนี้เปิดสอนในระดับปริญญาตรีซึ่งเป็นโปรแกรมเฉพาะพิเศษของสถาบัน นั่นก็คือ หลักสูตรศิลปศาสตรและวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขานวัตกรรมบูรณาการ (หลักสูตรนานาชาติ) [Bachelor of Arts and Science in Integrated Innovation (International Program)] หรือ BAScii ซึ่งจะมุ่งเน้นไปยังการเรียนการสอนแบบสหวิทยาการ (Transdisciplinary) เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างแนวความรู้และประสบการณ์สำหรับการเป็นผู้ประกอบการและนักธุรกิจในอนาคต โดยตัวหลักสูตรจะโฟกัสไปยังความสามารถที่จำเป็นในการทำงานในศตวรรษที่ 21 ประกอบไปด้วย

1. Foundation (30 credits)

2. Core Business (18 credits)

3. Core Technology (18 credits)

4. Specialization (54 credits)

ซึ่ง specialization courses นี้ก็ถูกแบ่งย่อยไปในอีก 4 สาขาเฉพาะทาง ได้แก่

4.1. Health and Wellness

4.2. Inclusive Community Smart Cities

4.3. Sustainable Development

4.4. Digital Economy, AI Robotics

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.scii.chula.ac.th/program/


->ทุนการศึกษา

1. BAScii Scholarship (Entrance Award)

ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนใหม่ที่ได้คะแนนจากการพิจารณาเข้าเรียนต่อสูงเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งมีจำนวนจำกัด โดยจะถูกพิจารณาโดยอัตโนมัติหลังจากที่ได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อแล้ว

คะแนนการสมัครเข้าเรียนจะคิดจาก 4 คุณสมบัติของผู้สมัคร ดังนี้

- Math (30%) – คะแนนการสอบวัดระดับความสามารถทางคณิตศาสตร์

- English (20%) – คะแนนการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ

- Portfolio (20%) – แฟ้มสะสมผลงาน

- Aptitude Test + Interview (30%) – คะแนนจากข้อสอบความถนัดและการสัมภาษณ์

โดยจะมีอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับคะแนนการสมัครนี้ในส่วนถัดไปของบทความครับ


2. ทุนการศึกษาระหว่างปี

ทุนการศึกษาที่จะให้ระหว่างการเรียนอยู่ในสถาบัน โดยจะให้แก่นักศึกษาที่มีผลการเรียนที่ดีที่สุดประมาณ 15 คนสำหรับทุก ๆ เทอม


ช่วงเล่าประสบการณ์

สวัสดีครับ พี่ชื่อเนติ เนตรเกื้อกูล ชื่อเล่นชื่อแชมป์ครับ จบการศึกษาจากโรงเรียนกำเนิดวิทย์รุ่นที่ 3 พี่ได้ทำการสมัครโปรแกรม BAScii ของสถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว หรือก็คือสำหรับปีการศึกษา 2563 ผ่านระบบ TCAS รอบ 1 (Portfolio) และได้รับการตอบรับเข้าศึกษาเป็นตัวจริงครับ


->ทำไมถึงต้องเลือก BAScii

พี่คิดว่า BAScii เป็นโปรแกรมใหม่ที่ unique มาก ๆ เลย ตอนที่ได้รู้จักหลักสูตรนี้ก็ตื่นเต้นกับ degree structure ของตัวโปรแกรมที่เหมือนรวมวิชาที่จะสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้จริงในอนาคตมารวมกันอยู่ในเวลาแค่ 4 ปี ด้วยความที่ไม่เคยเห็นหลักสูตรไหนที่เป็นแบบนี้มาก่อน (เพราะเขาก็พึ่งเปิดที่นี่เป็นที่แรกในเอเชียแหละ55555) ก็เลยทำให้พี่สนใจและลองหาข้อมูลเพิ่มจากในเพจของสถาบัน กับสอบถามรุ่นพี่รุ่นแรกที่ได้เข้าไปเรียนใน BAScii ก็ได้รู้เพิ่มเติมว่าระหว่างการเรียนนั้นจะมีให้ลองทำ startup project ตามความสนใจของตนเอง และยังมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรอีกด้วยครับ

ถึงตอนนี้จะยังไม่มีนักศึกษาที่จบมาจากโปรแกรมนี้จริง ๆ แต่พี่ก็คิดว่าด้วยความสามารถของอาจารย์ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในเรื่องเงินทุนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้สนับสนุนการเรียนการสอนของทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำให้เราสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการเรียนโปรแกรมนี้แน่นอน


->การสมัคร

1. การสมัครเข้า BAScii จะมีอยู่ 4 รอบหลัก ๆ แต่สำหรับนักเรียนไทยจะสามารถสมัครเลือกได้เพียง 3 รอบครับ

1.1. Early Admission Round (TCAS round 1)

เป็นการสมัครรอบแรกสำหรับทุก ๆ ปีการศึกษา โดยจะรับนักเรียนทั้งหมดประมาณ 80 คน สำหรับทั้งนักเรียนไทยและต่างชาติจากทั้งโรงเรียนในไทยและต่างประเทศที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า

1.2. Quota Admission (TCAS round 2)

เป็นการสมัครรอบโควตานักกีฬา สำหรับนักเรียนในประเทศไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า และมีความสามารถและผลงานทางด้านกีฬา โดยจะรับนักเรียนทั้งหมด 2 คน

1.3. Direct Admission Round

เป็นการสมัครรอบที่สองสำหรับทุก ๆ ปีการศึกษา โดยจะรับนักเรียนทั้งหมดประมาณ 20 คน สำหรับทั้งนักเรียนไทยและต่างชาติจากทั้งโรงเรียนในไทยและต่างประเทศที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า

1.4. International Admission Round

เป็นรอบการสมัครสำหรับนักเรียนต่างชาติเท่านั้นครับ


2. ภายในการสมัครแต่ละรอบจะคิดคะแนนการสมัครตามคุณสมบัติ 4 อย่างของผู้สมัคร ดังนี้

2.1. Math (30%)

คะแนนการสอบวัดระดับความสามารถทางคณิตศาสตร์ ซึ่งจะใช้คะแนนจากการสอบ Standardized Test ของวิชาคณิตศาสตร์ต่าง ๆ ได้แก่ SAT, SAT Subject, IB, A-Level, ACT โดยเลือกยื่นแค่ผลสอบของเพียงการสอบเดียวก็พอครับ และยังมี requirement ขั้นต่ำของบางการสอบ เช่น ถ้าเลือกที่จะยื่นคะแนน SAT Subject Math Level 2 ต้องมีคะแนนขั้นต่ำ 600 จาก 800 คะแนนครับ

2.2. English (20%)

คะแนนการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ซึ่งจะใช้คะแนนจากการสอบ English Proficiency Test ที่เป็นมาตรฐานและได้รับการยอมรับในประเทศไทย ได้แก่ TOEFL, IELTS, SAT, CU-TEP โดยเลือกยื่นแค่ผลสอบของเพียงการสอบเดียวก็พอเช่นเดียวกับคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ครับ และยังมี requirement ขั้นต่ำของผลการสอบ เช่น ถ้าเลือกที่จะยื่นคะแนน TOEFL-iBT จะต้องมี overall score ขั้นต่ำ 80 หรือ ถ้าเลือกที่จะยื่นคะแนน IELTS จะต้องมี overall score ขั้นต่ำ 6.5 ครับ

2.3. Portfolio (20%)

แฟ้มสะสมผลงานที่รวบรวมผลงานทางวิชาการ กิจกรรมและโครงการที่เกี่ยวกับชุมชนและจิตอาสา ความสามารถในการบริหารและการจัดการ ประสบการณ์ในด้านอื่นนอกจากการเรียน ยกตัวอย่างเช่น งานศิลป์ งานออกแบบ หรือสื่อต่าง ๆ โดยตัวแฟ้มสะสมผลงานนั้นจะต้องมีขนาดหน้ากระดาษเท่ากับกระดาษ A4 สามารถทำได้สูงสุด 10 หน้า ไม่รวมหน้าปกและสารบัญ และจะต้องส่งผ่านการอัพโหลดในรูปแบบไฟล์ PDF เข้าไปในเว็บไซต์การสมัครครับ

ตัวอย่างเนื้อหาในพอร์ทที่พี่ได้ใส่ไปก็เป็นพวกผลงานทางการแข่งทางวิชาการ โครงงานวิจัยในสาขาต่าง ๆ ส่วนนอกเหนือจากส่วนของวิชาการก็มีรูปถ่ายที่พี่เคยถ่าย ผลงานการตัดต่อวิดิโอ พี่เคยทำพวก Manufacturing Design ผ่าน SOLIDWORKS ก็ใส่พวก 3D Model ของผลงานเก่า ๆ ลงไป ผลงานเกี่ยวกับงานบริหารและความเป็นผู้นำจากการที่เคยเป็นกรรมการนักเรียนของโรงเรียน และพวกผลงานทางด้านดนตรี กีฬาและจิตอาสาครับ พี่แนะนำว่าถ้าใส่ CV (Curriculum Vitae) ไว้หลังจากหน้าปกสำหรับใส่พวกเกรดเฉลี่ย คะแนนจากการสอบ Standardized Test ต่าง ๆ และก็ lab skills เพื่อเป็นการสรุปความสามารถของตัวเองไว้คร่าว ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่จะสร้างความประทับใจแรกในความสามารถของน้องให้กับกรรมการได้ดีครับ และถ้าต้องการ น้อง ๆ สามารถทักมาขอดูตัวอย่างพอร์ทของพี่ได้ตามช่องทางติดต่อที่สะดวกได้เลย

2.4. Aptitude Test + Interview (30%)

Aptitude Test หรือ การสอบความถนัด เป็นการสอบที่ถูกจัดขึ้นโดยทางสถาบันและจะถูกคิดเป็นส่วนหนึ่งในคะแนนการรับสมัคร หรือก็คือข้อสอบเข้า (Admission Test) นั่นแหละครับ เนื้อหาในการสอบจะเกี่ยวกับทักษะในการเขียน การวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและการคิดเชิงวิพากษ์ครับ

Interview หรือ การสัมภาษณ์ เป็นการสอบสัมภาษณ์กับกรรมการ 3 ท่านซึ่งเป็นอาจารย์ที่สอนในโปรแกรมนี้ คำถามก็จะมีทั้งคำถามทั่วไป คำถามที่เกี่ยวกับผลงานจาก portfolio คำถามเชิงธุรกิจ และคำถามปลายเปิดเพื่อที่จะดูความคิดและการแก้ปัญหาครับ

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.scii.chula.ac.th/admissions-round/


-ระยะเวลาในการเปิดรับสมัคร

หมายเหตุ ระยะเวลาเปิดรับสมัครอาจจะเปลี่ยนไปในแต่ละปี จึงแนะนำให้ทำการตรวจสอบวันและเวลาที่แน่นอนในเว็บไซต์ของทางสถาบันด้วยครับ


-เอกสารที่ใช้สำหรับการสมัคร

1. ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัครและข้อมูลของผู้ปกครอง

กรอกลงไปใน Online Application Form ซึ่งจะอธิบายในส่วนถัดไปครับ


2. รูปถ่าย

เป็นรูปถ่ายหน้าตรงที่แสดงตั้งแต่ส่วนหัวถึงไหล่ และไม่มีอะไรปิดใบหน้า ในสกุลไฟล์ .jpg อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form โดยสามารถใช้รูปถ่ายนักเรียนได้ครับ


3. ข้อมูลทางการศึกษา

ประวัติการศึกษาและสถานะการศึกษาในปัจจุบัน กรอกลงไปใน Online Application Form


4. เอกสารยืนยันตัวตน

บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้สมัคร อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form


5. เอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)

อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form


6. เอกสารที่แสดงถึงสถานะการเป็นนักเรียน

ออกให้โดยทางโรงเรียน อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form


7. เอกสารแสดงผลการเรียน (Transcript)

ออกให้โดยทางโรงเรียน อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form


8. แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)

ใช้ขนาดหน้ากระดาษเท่ากับกระดาษ A4 สามารถทำได้สูงสุด 10 หน้า ไม่รวมหน้าปกและสารบัญ ขนาดไฟล์ไม่เกิน 10 MB ในสกุลไฟล์ .pdf อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form


9. Application Overview

สรุปข้อมูลส่วนตัว คะแนนสอบ ผลงานและกิจกรรมพร้อมรูปภาพประกอบ สามารถดาวน์โหลดได้ใน Online Application Form และนำมากรอก หลังจากนั้นให้ทำการอัพโหลดกลับขึ้นไปใน Online Application Form ในสกุลไฟล์ .pdf


10. คะแนนการสอบวัดระดับความสามารถทางคณิตศาสตร์

เอกสารแสดงคะแนนสอบที่ออกให้โดยทางผู้รับผิดชอบการสอบ อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form


11. คะแนนการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ

เอกสารแสดงคะแนนสอบที่ออกให้โดยทางผู้รับผิดชอบการสอบ อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form


หมายเหตุ ในกรณีมีสิทธิสอบสัมภาษณ์และสอบความถนัด ต้องนำ Portfolio เกียรติบัตร เอกสารตัวจริงกับสำเนาของทุกอย่างที่อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application Form ไปในวันสัมภาษณ์เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องด้วยครับ


-วิธีการสมัคร

ระบบการสมัครของ BAScii จะเป็นการสมัครผ่าน Online Application ของทางสถาบัน ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้


1. เข้าไปยังเว็บไซต์ https://bascii.education.gomoveup.com/ หรือสามารถเข้าได้ผ่านเว็บไซต์ของสถาบัน http://www.scii.chula.ac.th/ ไปที่หน้า Admission และเลื่อนลงมาคลิกที่ Online Application


2. ทำการสมัครบัญชีและเข้าไปในระบบ จะเจอหน้าที่เป็นแบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลและพื้นที่สำหรับอัพโหลดเอกสารภายใต้หัวข้อต่าง ๆ ให้ทำการกรอกข้อมูลและอัพโหลดเอกสารที่จำเป็นให้เรียบร้อย


3. ในแถบด้านบนของเว็บไซต์ Online Application จะมีปุ่ม How to Apply เพื่อที่น้อง ๆ จะได้ทบทวนขั้นตอนการสมัคร อีกทั้งยังมี Application Progress ขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับแสดงถึงภาพรวมความครบถ้วนของข้อมูลที่จำเป็นแสดงไว้ให้ด้วยครับ


4. ระบบจะทำการบันทึกข้อมูลและเอกสารที่กรอกลงไปโดยอัตโนมัติ แต่เพื่อความมั่นใจ ควรจะตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ทุกครั้งก่อนที่จะทำการกรอกในครั้งต่อไป และตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างก่อนที่จะทำการส่งผ่านหัวข้อ Check & Print ด้วยครับ


5. ชำระเงินค่าสมัครเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท เป็นอันเสร็จสิ้นการสมัครครับ

หมายเหตุ สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะสมัครในรอบ Early Admission Round และ Quota Admission จะต้องทำการสมัครบัญชีของระบบ TCAS ด้วยนะครับ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.mytcas.com/ ซึ่งต้องยืนยันสิทธิ์ภายในระบบ TCAS เพิ่มเติมจากการยืนยันกับทางสถาบันอีกด้วย และไม่ต้องเป็นห่วงครับ ในเวลาที่ต้องทำอะไรที่สำคัญเกี่ยวกับการสมัคร เช่น การยืนยันสิทธิ์ การชำระเงินต่าง ๆ ทางสถาบันจะส่งอีเมลมาเพื่อแจ้งเตือน แต่ในทางที่ดีก็ควรตรวจสอบเรื่องวันที่และเวลาที่แน่นอนไว้ด้วยครับ


-Tips & Trick

- สำหรับการสอบคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ พี่แนะนำให้ลองหาโจทย์เก่าของปีก่อน ๆ ของข้อสอบนั้น ๆ มาลองฝึกทำดูครับ ข้อสอบแต่ละอย่างจะมีแนวและทริคการทำที่แตกต่างกัน ลองเริ่มจากการทำข้อสอบด้วยตัวเอง จับแนวไปเรื่อย ๆ และขอคำแนะนำจากคนที่เคยสอบมาแล้วก็ได้ครับ


- เนื่องจากในการสมัครเข้าทางคณะกรรมการเขาก็ดูความสามารถในด้านศิลปะและการออกแบบของผู้สมัครด้วย ดังนั้นพี่แนะนำว่าให้ทำ Portfolio ของน้อง ๆ ให้มี design ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร และเหมาะกับการนำเสนอผลงานในรูปแบบต่าง ๆ เหมือนกับว่าทำให้ Portfolio ของเรานั้นเป็นผลงานอีกชิ้นหนึ่งของเราเลยก็ได้ จะเป็นวิธีที่ดีสำหรับการสร้างความประทับใจให้กับกรรมการได้ด้วยครับ


- เพิ่มหน้า CV (Curriculum Vitae) ใน Portfolio เพื่อเป็นการสรุปความสามารถของน้องคร่าว ๆ ภายในหน้าเดียว ควรจะออกแบบให้สะดวกในการอ่านและใช้ข้อมูลที่ดึงดูดความสนใจของกรรมการ


- ถึงแม้ว่าใน Application Overview จะมีพื้นที่สำหรับเขียนเรียงความเกี่ยวกับตัวเราภายใน 5 บรรทัดแล้ว แต่ถ้าเกิดพื้นที่ตรงนั้นน้อยเกินไปสำหรับน้องก็สามารถเขียน Statement of Purpose ที่แสดงที่ความสนใจ ความหลงใหล และเหตุผลที่ต้องการจะเข้าศึกษาในหลักสูตรนี้ใส่ลงไปใน Portfolio ได้เหมือนกันครับ


- เนื่องจากชื่อโปรแกรมและหลักสูตรในการสอนจะเน้นไปที่คำว่า Integrated Innovation พี่แนะนำว่าให้ใส่ผลงาน กิจกรรมและโครงงานที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา การบูรณาการของหลายสาขาวิชา และความเป็นนวัตกรของน้องลงไปใน Portfolio จะเป็นประโยชน์ต่อการสมัครมาก ๆ เลยครับ


- อย่าลืมเตรียม Portfolio เกียรติบัตร และเอกสารตัวจริงกับสำเนาของทุกอย่างที่อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application ไปในวันที่ไปสอบความถนัดสอบสัมภาษณ์เพื่อทำการตรวจสอบความถูกต้อง


- Tips ของการสอบความถนัดการและสอบสัมภาษณ์จะอยู่ในส่วนถัดไปของบทความครับ


->การสอบความถนัดและการสัมภาษณ์

หลังจากที่เราได้ทำการส่งเอกสารและข้อมูลผ่านทาง Online Application ไปแล้ว จะสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในขั้นแรกได้ทางเว็บไซต์หรือ Facebook Page ของสถาบัน โดยจะประกาศออกมาในไม่ช้า เนื่องจากการสอบนั้นจะถูกจัดขึ้นในไม่กี่อาทิตย์ภายหลังจาก deadline การส่ง Online Application เลยครับ รายละเอียดที่ถูกประกาศออกมาพร้อมกันก็จะมีพวกเวลาและสถานที่ในการสอบความถนัดกับเวลาและห้องในการสัมภาษณ์แบบเดี่ยว ซึ่งในการสมัครสำหรับปีการศึกษา 2563 นี้ ทั้งการสอบความถนัดและการสอบสัมภาษณ์ถูกจัดขึ้นที่ตึกจามจุรี 10 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือก็คือตึกเรียนของ BAScii นั่นเอง พี่เลยถือโอกาสในการสอบนี้เพื่อลองหาเส้นทางการเดินทาง รวมถึงไปดูบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ อาคารเรียนไปด้วยเลยครับ เลยขอยืนยันว่าสามารถเดินทางไปเองได้ง่าย อาคารยังใหม่ สวยและน่าเรียนมากกกกกกก

การสอบความถนัด (Aptitude Test) นั้นถูกจัดขึ้นในห้องประชุมใหญ่ภายในตึก ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยรายละเอียดของข้อสอบเท่าที่พี่จำได้มีประมาณนี้ครับ

ปล. เนื่องจากว่าเป็นโปรแกรมอินเตอร์ฯ ข้อสอบเลยเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะครับ

Part I: Logical Thinking

เป็นเหมือนประมาณข้อสอบวัด IQ และโจทย์เชาว์ที่ทดสอบกระบวนการคิดทั่วไป สำหรับ Part นี้ส่วนตัวพี่คิดว่าไม่ได้ยากมาก วอร์มสมองให้พร้อมก่อนเข้าไปสอบก็พอครับ

Part II: Business

Part นี้จะเป็นคำถามเกี่ยวกับธุรกิจ บางข้อก็ถามความหมายของคำศัพท์ตรง ๆ บางข้อก็มีให้คำนวณราคาของอะไรซักอย่างตาม concept ของเศรษฐศาสตร์ โดยจะมีศัพท์เฉพาะในเชิงธุรกิจเยอะมาก ๆ ทำให้ถึงแม้ว่าน้องจะเก่งคณิตศาสตร์ขนาดไหนแต่ถ้าไม่รู้ว่าโจทย์ถามหาอะไรก็ไม่มีความหมายครับ5555 พี่แนะนำให้อ่านและจำพวก definition ของศัพท์เฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกิจและเศรษฐศาสตร์เช่น patent, copyright, profit margin, expectations, etc. ไปก่อนจะช่วยได้มากเลย และคงจะเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการที่จะเข้าไปเรียนใน BAScii ด้วย ถ้าต้องการจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศัพท์เฉพาะทางธุรกิจสามารถสอบถามพี่โจ้ ณัฐนันท์ ได้ตามช่องทางติดต่อที่มีให้เลยครับ

Part III: Design Thinking & Creativity

เป็น Part ที่กินเวลาเยอะที่สุดเลย เพราะว่าคำถามทั้งหมดนั้นถูกใช้เพื่อดูวิธีการคิดและความสามารถในการบริหารจัดการของน้อง ๆ และข้อสอบยังบอกว่าเราสามารถทำการวาดรูปเพื่อช่วยสนับสนุนคำตอบของตัวเองได้ด้วยครับ จึงทำให้เราต้องคิดทบทวนก่อนที่จะเขียนตอบคำถามข้อหนึ่งมาก ๆ ยกตัวอย่างโจทย์เช่น สมมติว่าเราเป็น CEO ของบริษัทหนึ่ง และจะต้องทำการแบ่งงบส่วนกลางประจำปีไปให้ในแต่ละฝ่ายเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิม 2. เพื่อขยายช่องทางการผลิตของผลิตภัณฑ์เดิม 3. เพื่อลงทุนในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณจะเลือกจัดสรรการแบ่งงบประมาณกลางอย่างไร เพราะอะไร ใน Part นี้ พี่แนะนำว่าให้ทำการเขียนทดความคิดของเราด้วยดินสอลงไปในพื้นที่เล็ก ๆ ในกระดาษก่อน เพื่อเป็นการเรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดในหัวออกมาเป็น Main Idea ในแต่ละย่อหน้าของคำตอบข้อนั้น ๆ หลังจากนั้นให้ทำการคิดว่าวิธีการวาดรูป (อาจจะเป็นกราฟ แผนภูมิ หรือ icon ก็ได้) แบบใดที่จะสามารถสนับสนุนแนวคิดของน้องและทำให้น้องนำเสนอข้อมูลที่ต้องการจะสื่อออกมาให้ได้ดีที่สุดครับ


การสอบสัมภาษณ์ (Interview) นั้นจะใช้เวลาคนละ 15 นาที ผู้สมัครจะได้เข้าไปเจอกับกรรมการ 3 คนซึ่งเป็นอาจารย์ที่สอนโปรแกรมนี้ และก็สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเช่นเดียวกับการสอบความถนัดครับ โดยต้องไปถึงก่อนเวลาสัมภาษณ์จริง 45 นาที เพื่อทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารต่าง ๆ เพราะฉะนั้นห้ามลืมนำ Portfolio เกียรติบัตร และเอกสารตัวจริงกับสำเนาของทุกอย่างที่อัพโหลดขึ้นไปใน Online Application ไปกับตัวด้วย และที่ให้ไปถึงก่อนก็เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนการสัมภาษณ์ที่ดีด้วยครับ ส่วนบรรยากาศในห้องสัมภาษณ์ก็ดีมากก ไม่เครียดและไม่กดดันเท่าที่คิดเพราะว่าเป็นเหมือนกับการเข้าไปนั่งคุยกับอาจารย์มากกว่าครับ คำถามก็จะมีตั้งแต่การแนะนำตัว ซึ่งการแนะนำตัวในทุก ๆ การสัมภาษณ์นั้นจะเป็นโอกาสดีที่จะสร้างความประทับใจแรกให้กับกรรมการ ไม่ควรจะธรรมดาหรือแปลกเกินไป ส่วนคำถามต่อ ๆ ไปที่พี่ได้รับก็จะมาจาก Portfolio เป็นส่วนใหญ่ ด้วยความที่พี่มาจากโรงเรียนวิทย์และได้มีโอกาสทำโครงงานวิจัยไว้มากระดับหนึ่ง เขาก็จะถามเกี่ยวกับงานพวกนั้น งานนี้เป็นอย่างไร ใช้แนวคิดอะไร ชอบงานไหนมากที่สุด และหลังจากนั้นเขาก็พยายามโยงเข้าไปยังเรื่องธุรกิจด้วยคำถามประมาณว่า คุณทำงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาเยอะมาก แล้วประสบการณ์หรือความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจนี่มีอะไรบ้าง เขายังถามคำถามเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทัศนคติความเป็นผู้นำ ปิดท้ายด้วยว่าทำไมถึงอยากเข้าที่นี่และที่นี่เป็นตัวเลือกอันดับที่เท่าไหร่ของคุณ ในส่วนของคำถามนี้พี่รู้สึกว่ามันขึ้นอยู่กับตัวน้อง ๆ ด้วยแหละว่ามีอะไรที่ทำให้กรรมการสนใจและอยากที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับเราให้มากขึ้น ส่วนที่สามารถเตรียมตัวไปก่อนได้ก็มีแต่การแนะนำตัว เพราะเขาถามแน่ ๆ 55555555555 หลังจากนั้นก็สู้ ๆ นะครับ ตอบในสไตล์การเล่าเรื่อง สิ่งที่เป็นตัวน้องและน้องคิดแบบนั้นจริง ๆ อย่าไปเครียดและตื่นเต้นจนพูดไม่ได้ วิธีช่วยก็คือการสร้างบรรยากาศภายในห้องและพยายามควบคุมมันด้วยตัวเอง เช่น การชวนคุย การเล่นมุขนิดหน่อย (อย่าเยอะเกินไป) จะเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดในใจและในห้องได้ครับ


->ช่วงรอผลตอบรับการเข้าศึกษาต่อ

เหมือนอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ครับ สำหรับผลของผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกและมีสิทธิ์สอบความถนัดกับสอบสัมภาษณ์ก็จะถูกประกาศออกมาภายในไม่กี่วันหลังจากปิดระบบรับสมัคร เนื่องจากการสอบนั้นจะถูกจัดขึ้นภายในไม่กี่อาทิตย์ถัดไปครับ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกได้ทางเว็บไซต์หลักและ Facebook Page ของ BAScii ซึ่งพี่แนะนำว่าติดตามทาง Facebook Page จะดีกว่าเพราะทางสถาบันก็จะทำการอัพเดทข่าวสารต่าง ๆ ผ่านทางนี้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว และเรายังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนภายใน Facebook ให้ทำการแจ้งเตือนเราทุกครั้งที่ทาง Page ลงโพสต์ใหม่ด้วยครับ ส่วนผลการคัดเลือกรอบที่สองหรือก็คือผลการตอบรับเข้าศึกษาต่อนั้นจะถูกประกาศภายใน 2 อาทิตย์หลังจากการสอบความถนัดและการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งจะมีการประกาศทางทั้งสองช่องทางเช่นเดียวกับผลการคัดเลือกรอบแรก และทางสถาบันจะส่งอีเมลมาด้วยเพื่อยืนยันว่าน้องได้รับการตอบรับเข้าศึกษา พร้อมกับเอกสารการยืนยันสิทธิ์และรายละเอียดของการดำเนินการขั้นถัดไปครับ

หลังจากได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อแล้ว น้องจะต้องไปทำการรายงานตัวที่ตึกจามจุรี 10 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับเข้าร่วมกิจกรรม Information Day ตามวันและเวลาในประกาศ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นโดยทางสถาบันเพื่อเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรให้กับน้อง ๆ และผู้ปกครอง ผ่านการบรรยายของอาจารย์ผู้ที่สอนในหลักสูตรนี้เอง อีกทั้งยังมีช่วงพิเศษสำหรับการสัมภาษณ์รุ่นพี่ BAScii เกี่ยวกับชีวิตประจำวันและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับจากการเรียนในหลักสูตรนี้ โดยกิจกรรมนี้นั้นถูกจัดขึ้นมาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการยืนยันสิทธิ์เพื่อศึกษาต่อในหลักสูตร BAScii นั่นเองครับ

จากประสบการณ์ทั้งหมดที่พี่ได้มาจากในวันสอบและ Information Day พี่รู้สึกว่าที่นี่เป็นสถาบันที่อบอุ่น ทั้งครูและรุ่นพี่ใจดี น่ารักและพร้อมที่จะให้คำปรึกษาแก่เราตลอด น้องยังจะได้มีโอกาสได้พบปะกับเพื่อน ๆ ที่มีความสนใจเดียวกันและอาจจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกันในอนาคต พี่เชื่อว่าถ้าน้อง ๆ ทุกคนพยายามและอยากเข้าเรียนที่นี่จริง ๆ BAScii จะพร้อมต้อนรับน้องเสมอครับ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อพี่ได้ตามช่องทางที่สะดวกได้เลย เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ สู้ ๆ ^^


เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง

หน้าหลักของมหาวิทยาลัย

หน้าหลักของ BAScii

Facebook Page ของ BAScii

Requirements ในการสมัคร

ระบบสำหรับการสมัคร


หมายเหตุ ข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงมาจากการสมัครเข้าศึกษาต่อสำหรับปีการศึกษาที่ 2563 (Early Admission Round 2020, TCAS Round 1) ซึ่งพี่ได้ทำการสมัครในปลายปีพ.ศ. 2562 และเนื่องจากทางสถาบันเปิดสอนหลักสูตรนี้มาเพิ่งจะเข้าปีที่ 2 จึงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับบางข้อมูลและเว็บไซต์ในบทความนี้ ทางที่ดีควรที่จะติดตามข่าวสารและข้อมูลจากทางสถาบันในแต่ละปีเพื่อความถูกต้องและแม่นยำที่สุดด้วยครับ

126 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page